เรื่องเล่า (2) : เธอคนนั้น

ผมยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าโรงพยาบาลศรีนครรินทร์ กำลังมองหาว่าเขาตรวจร่างกายกันที่ไหน

“ตามคนนั้นไปดีกว่า ท่าทางจะมาตรวจร่างกายเหมือนกัน” พี่ก็อปชี้ไปที่นักเรียนคนนึง

พี่ก็อปเป็นลูกของหลวงลุงครับ เรียนอยู่ที่มข.เหมือนกัน ทีแรกเรียนพัฒนาสังคมแต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่อิ้งค์แระ

เราเดินตามนักเรียนคนนั้นไปซักพักก็เจอสถานที่ตรวจร่างกาย

สถานที่ตรวจร่ายกายจะเป็นออกเป็นหลายจุดครับ ต้องผ่านจุดที่หนึ่ง ไปจุดที่สอง สาม เรื่อยๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องไปกี่จุด อาศัยว่าเดินๆตามกันไปก็คงเจอเอง

รับบัตรคิวเสร็จ ผมก็มานั่งต่อแถว มองไปมองมาไม่รู้จักใครผมก็เลยก้มหน้าก้มตากรอกแบบฟอร์มรายละเอียดการตรวจร่างกายไปเรื่อยๆ

“เธอ” เสียงนั้นดังมาจากข้างหลัง

“ขอยืมปากกาหน่อยสิ” ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมยิ้ม

ผมหยิบปากกาให้เธอแบบเสียไม่ได้ แล้วก็หันกลับมาอ่านแบบฟอร์มเหมือนเดิม

ซักพักเธอสะกิดผมอีก “เธอๆ เขียนเสร็จแล้ว ขอบใจนะ”

หันไปเอาปากกาคราวนี้ ผมถึงได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ชัดๆ

เธอเป็นผู้หญิงสูง ผมยาว ผิวขาว ตาโต ที่สำคัญที่สุด กำลังยิ้มให้ผมด้วย

“มาจากไหนหรอ” เธอเริ่มบทสนทนาขึ้นก่อน

จากที่คุยกันได้ความว่าเธอมาจากต่างจังหวัดเหมือนผม ไม่เคยมาภาคอีสานเหมือนกัน มาคนเดียวเหมือนกัน ไม่มีเพื่อนเหมือนกัน และนั่นก็ทำให้เราคุยกันถูกคอยิ่งขึ้น

ตลอดช่วงเช้าของวันนั้น เราไปด้วยกันตลอด พอผมตรวจเสร็จจุดนี้ผมก็ยืนรอเธอ บางจุดพอเธอตรวจเสร็จก่อน เธอก็ยืนรอผม เราอยู่ด้วยกันจนตรวจร่างกายเสร็จ

ครับ ตอนนั้นในใจผมคิดว่า อะโห เหมือนในหนังเลยว่ะ พระเอกเจอกับนางเอกวันแรก แล้วก็ได้เป็นแฟนกันจนจบ

หึหึหึ ผมแอบหัวเราะอยู่ในใจ คนนี้แหละที่พระเจ้าประทานมาให้กู ท่านคงไม่รู้จะให้อะไรเป็นของขวัญที่กูเอนท์ติดเลยส่งผู้หญิงคนนี้มา

แน่นอนครับ ชัวร์ที่สุด ยิ่งกว่า 2+2 เป็น 4

แต่…..ผมลืมอะไรไปอย่างนึง

ลืมไปว่าตัวเองแม่งขี้อายโคตร พูดกับผู้หญิงก็ไม่เป็น จะไปจีบยังไง

พอใกล้เที่ยงเธอก็ต้องไปสัมภาษณ์ที่คณะของเธอช่วงบ่าย ผมก็ต้องไปที่คณะของผม เป็นอันว่าเราต้องแยกกัน

ผมเดินไปส่งเธอตรงจุดที่เธอนัดกับพ่อแม่ไว้ เธอแนะนำผมให้พ่อแม่เธอรู้จักด้วย

จากนั้นเธอโบกมือบ๊ายบายผมแล้วก็ค่อยๆเดินจากไป……จากไป…จากไป…..

เสียงในใจผมร้องลั่น “เฮ้ย เค้าจะไปแล้ว ไปขอเบอร์ไว้ดิ ขอวิธีติดต่อไว้ก็ได้ เอ๊า ยืนนิ่งทำไมวะ เดินไปนู่นแล้วเห็นมั้ย เฮ้ย ตามไปเซ่” เสียงในหัวดังก้อง แต่ร่างกายไม่ยอมขยับ

“เอ่อ…..คือ….อะ…..อ่า…..ดะ….เดี๋ยว….” ผมพูดตะกุกตะกัก แต่ยังยืนนิ่ง

เธอหันมาครับ ผมยิ้มให้ พร้อมหันหลังกลับและเดินไปอย่างรวดเร็ว

“อ้ายควายยยยยยยย” เสียงในใจตะโกนมาอีก “มึงบ้ารึเปล่า มึงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะโว้ย มึงไม่อยากรู้จักเค้าเรอะ….#%$#%^$##$ ”

เอาวะ ผมตัดปัญหา ไม่งั้นในใจมันวุ่นวายครับ ผมหันหลังกลับแล้ววิ่งไปหาเธออย่างเร็ว

แล้วผมก็เจอ
.
.
.
เจอแต่หมอ

เธอหายไปแล้ว

ผมยืนหอบแฮ่กๆ เธอไปแล้วจริงๆ เชี่ยเอ้ย

ผมเดินกลับมาเหมือนพระเอกในหนัง โอว สายลมแห่งความเศร้า ผมยิ้มให้ตัวเองแบบเท่ห์ที่สุด

“ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็มีความสุขมาก

ยังไงก็ขอบคุณฟ้านะครับ ที่ทำให้ผมมีช่วงเวลาดีๆกับ…..”

กับ……

กับ…….

ชิบหายแล้ว!!!!

ผมลืมถาม

เอ่อ………….เธอชื่ออะไรวะ

ใส่ความเห็น